วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

หุ้นแบงก์รับ 2 เด้ง ธปท.ขึ้นดอกเบี้ย-งบไตรมาส2

หุ้นแบงก์รับ 2 เด้ง ธปท.ขึ้นดอกเบี้ย-งบไตรมาส2

วันศุกร์ที่ 09 กรกฎาคม 2553 เวลา 12:47:16 น. 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชยฺ์จะรับ 2 เด้งจากผลของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยและการประกาศผลประกอบการที่จะทยอยประกาศในช่วงปลายเดือนนี้ โดยหุ้นเด่นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ได้แก่ ฺBBL TISCO และ KTB
บลูมเบิร์กรายงานว่าจากการสำรวจการคาดการณ์ในนักเศรษฐศาสตร์จำนวน 12 ท่าน พบว่า 7 ท่าน คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% มาอยู่ที่
ระดับ 1.5% ในวันที่ 14 ก.ค.นี้
บล.กิมเอ็งระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้
มุมมอง "เป็นบวก"...หุ้นเด่นคือ BBL และ TISCO
เรายังคงมีมุมมอง "เป็นบวก" ต่อกลุ่มธนาคาร จากแนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่อ และ NIM ที่ปรับตัวดีขึ้น ในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับคุณภาพสินทรัพย์ที่ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมจัดการได้ โดยหุ้นธนาคารที่เป็น Top pick ของเราคือ BBL จากสัญญาณการขยายตัวของสินเชื่อที่สูงตามการฟื้นตัวของภาคการลงทุน และราคาหุ้นปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุนโดยมีราคาซื้อขายเพียง 1.2 เท่าของมูลค่าทางบัญชี และ TISCO จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง สินเชื่อที่ขยายตัวสูงต่อเนื่อง และ ROE ที่ปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับสูงกว่า 20% ประกอบกับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลที่สูง
TISCO KTB และ BBL กำไรเติบโตโดดเด่น
เราประเมิน TISCO มีกำไรสุทธิไตรมาส 2/53 ขยายตัวสูงสุด QoQ และ YoY ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากกำไรจากการขายสินทรัพย์รอการขายและรายได้ค่าธรรมเนียมจากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้แก่ FIDF ในการขายหุ้น SCIB ให้แก่ธนาคารธนชาต ในขณะที่ BBL กำไรสุทธิไตรมาส 2/53 ขยายตัวสูง 24.5% yoy อันเป็นผลจากกำไรจากการขายหุ้น ACL ประมาณ 2 พันล้านบาท และ KTB กำไรสุทธิไตรมาส 2/53 ขยายตัวสูง 24.8% yoy จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ค่าธรรมเนียม
คาดหวังการเติบโตที่สูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
เราประเมินรายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นใน 2H10 จากสินเชื่อที่คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อภาคธุรกิจและสินเชื่อ SMEs อันเป็นผลมาจากวัฏจักรของสินเชื่อ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และโครงการภาครัฐ และ NIM ที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ในขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตต่อเนื่องในอัตราที่สูงในปีนี้ ทางด้านคุณภาพสินทรัพย์ยังไม่มีสัญญาณที่น่าเป็นห่วง ส่งผลให้การตั้งสำรองฯอยู่ในระดับปกติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น